ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ไกลที่สุดในดาวเคราะห์ 5 ดวงที่คนโบราณรู้จักกัน ในปี พ.ศ.2153 นักดาราศาสตร์ชื่อ กาลิเลโอ กาลิเลอี เฝ้ามองที่ดาวเสาร์ผ่านกล้องโทรทรรศน์สังเกตเห็นดาวเสาร์คล้ายมีหูจับ ในปี พ.ศ.2202
นักดาราศาสตร์ชื่อ คริสเตียน ฮอยเกนส์ ใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพกว่ากล้องของกาลิเลโอ เสนอว่าดาวเสาร์ถูกล้อมโดยวงแหวนแบน ในปีพ.ศ.2202 นักดาราศาสตร์ชื่อ จีน โดมินิคแคสสินี ได้แบ่งวงแหวนออกเป็นวงแหวน A และ B เรียกช่องว่างระหว่างวงแหวนทั้งสอง ช่องแคบแคสสินี ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ส่วนใหญ่เป็นแก๊สไฮโดรเจนและฮีเลียม บรรยากาศมีลมพัดแรงถึง 1,800 กิโลเมตรต่อวินาที บริเวณศูนย์สูตรที่ลมรวมกันอย่างรวดเร็วกับความร้อนภายในเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดแถบสีเหลองทองที่ชั้นบรรยากาศ ในปี พ.ศ.2523 นาซาส่งยานอวกาศ วอยเอเจอร์2 พบว่าแหวนของดาวเสาร์ส่วนใหญ่เป็นไอน้ำ และภายในวงแหวนหลัก ประกอบด้วยวงแหวนย่อยๆ เป็นชั้นๆ อีกมากมาย
ข้อมูลของดาวพฤหัสบดี
ระยะทางจากดวงอาทิตย์ : 1,426.666 ล้านกิโลเมตร
คาบการโคจร : 29.4 ปี
ค่าความรี (วงกลม = 0) : 0.05386179
วงโคจรเอียงจากระนาบสุริยะวิถี : 2.486 องศา
เส้นศูนย์สูตรเอียงกับระนาบโคจร : 26.73 องศา
คาบการหมุนรอบตัวเอง : 10.656 ชั่วโมง
รัศมี ณ บริเวณศูนย์สูตร : 60,268 กิโลเมตร
มวล : 95.16 เท่าของโลก
ความหนาแน่น : 0.70 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ซึ่งน้อยกว่าน้ำ หากมีถังน้ำที่ใหญ่กว่าดาวเสาร์เมื่อนำดาวเสาร์ไปใส่ในถังน้ำดาวเสาร์จะน้อยน้ำ
ความโน้มถ่วง : 7.207 เมตรต่อวินาทียกกำลัง 2
องค์ประกอบ : ไฮโดรเจน และฮีเลียม
อุณหภูมิ : -178 องศาเซลเซียส
บริวาร : 62 ดวง
วงแหวน : 7 วง (C, B, A, D, F, G, E)
วงแหวนดาวเสาร์
โครงสร้างของวงแหวนดาวเสาร์ แต่ก่อนหลายคนที่ยังคิดว่าวงแหวนของดาวเสาร์น่าจะเรียบเหมือนทางทางลาดยาง คนที่ให้คำตอบนี้ คือ เจมส์คลาร์กแมกเวลล์ เป็นคนแรกที่อธิบายว่า วงแหวนของดาวเสาร์จะไม่ได้เผ็นแท่งวัตถุแข็ง เพราะถ้าวงแหวนแข็งตันแข็งแรงโน้มถ่วงมากมหาศาลของดาวเสาร์จะดึงดูดอย่างรุนแรงจนวงแหวนบิดเบี้ยวแตกหัก ดังนั้นแมกส์เวลล์จึงสรุปว่าวงแหวนของดาวเสาร์ประกอบด้วยอนุภาคขนาดน้อยใหญ่ ซึ่งก็คือก้อนน้ำแข็งขนาดเล็กจำนวนมหาศาลที่ต่างก็โคจรไปรอบๆ ดาวเสาร์ในทิศทางเดียวกันกับดาวเสาร์หมุนรอบตัวเอง
ชื่อวงแหวน รัศมีวัดจากศูนย์กลางของดาวเคราะห์ (กม.) ความกว้าง (กม.)
ดี ( D ) 67,000-74,490 7,500
ซี ( C ) 74,490-91,980 17,500
ช่องแคบโคลอมโบ ( Colombo Gap ) 77,800 100
ช่องแคบแมกเวลล์ ( Maxwell Gap ) 87,500 270
บี ( B ) 91,980-117,500 25,500
ช่องแคบแคสสินี ( Cassini Division ) 117,500-122,050 4,700
ช่องแคบออยเกนส์ ( Huygens Gap ) 117,680 285-440
เอ ( A ) 122,050-136,770 14,600
ช่องแคบเองเก ( Encke Gap ) 133,570 325
ช่องแคบคีเลอร์ ( Keeler Gap ) 136,530 35
ช่องโรเซ ( Roche Division ) 136,700-139,380 2,600
เอฟ ( F ) 140,224 30-500
Janus/Epimetheus Ring 149,000-154,000 5,000
จี ( G ) 166,000-174,000 8,000
พาลเลน์ ( Pallene Ring ) 211,000-213,500 2,500
อี ( E ) 180,000-480,000 300,000
ชื่อช่องว่าง ระยะทางจากจุกศูนย์กลางของดาวเสาร์ (กม.) ความกว้างของวงแหวน (กม.)
โคลอมโบ 77,870 150
Titan Ringlet 77,870 30
แมกซ์เวลล์ 87,491 270
โครงสร้างในวงแหวนชั้น ซี ( C Ring )
โครงสร้างในช่องแคสสินี
ชื่อช่องว่าง ระยะทางจากจุดศูนย์กลางของดาวเสาร์ (กม.) ความกว้างของวงแหวน(กม.)
ฮอยเกนส์ 117,680 400
โครงสร้างในวงแหวนชั้น เอ ( A Ring )
ชื่อช่องว่าง ระยะทางจากจุดศูนย์กลางของดาวเสาร์ (กม.) ความกว้างของวงแหวน (กม.)
เอคเก 133,598 325
ดีเลอร์ 136,530 35
บริวารของดาวเสาร์
- ดงจันทร์ไททัน
- ดวงจันทร์เอนเซลาตัส
- ดวงจันทร์ไดโอนี
- ดวงจันทร์รีเอะ
- ดวงจันทร์มิมาส
บรรยากาศของดาวเสาร์
บรรยากาศของดาวเสาร์ ประกอบไปด้วยไฮโดรเจนร้อยละ 96.3% ฮีเลียมร้อยละ 3.3% และธาตุอื่นๆ ร้อยละ 0.4% ชั้นนอกสุดของดาวเสาร์ประกอบด้วยแอมโมเนีย
ยานสำรวจดาวเสาร์
ยานแคสสินี ภารกิจสำรวจดาวเสาร์ในช่วงปี พ.ศ.2547-2551 โดยจะปล่อยยานสำรวจชื่อ ฮอยเกนส์ ลงสู่ดวงจันทร์ไททัน ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 และยานแคสสินี จะโคจรศึกษาดาวเสาร์รวมทั้งดวงจันทร์ต่างๆ
ยานวอยเอเจอร์1 และ 2 ยานทั้งสองได้บินเฉียดดาวเสาร์เพื่อศึกษาดาวเสาร์ ในช่วงปี พ.ศ.2523-2524 และส่งภาพของดาวเสาร์รวมทั้งดวงจันทร์ต่างๆ กลับมากกว่า 32,000 ภาพ นอกจากนี้ยังได้ค้นพบโครงสร้างที่ซับซ้อนของงแหวน และค้นพบดวงจันทร์ของดาวเสาร์เพิ่มขึ้นอีก 3 ดวง
ยานไพโอนี11บินผ่านดวเสาร์เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2522 ที่ระยะห่าง 21,000 กิโลเมตร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น